นักวิเคราะห์จากบริษัทหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นและสกุลเงินในเอชียจะได้ปัจจัยบวกจากการที่เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน
พาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) ว่า "แม้อัตราว่างงานของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ "นโยบายที่ยังคงเข้มงวด, แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม และดุลความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป อาจทำให้เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบาย" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากกว่าครั้งก่อน ๆ ว่า พาวเวลกำลังพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวล นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 90% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 846.24 จุด หรือ +1.89% ปิดที่ 45,631.74 จุดในวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.92% แตะที่ระดับ 97.716 ในวันศุกร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยของพาวเวลจะกดดันสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงและจะเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินในเอเชีย และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาลงจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แสดงความเห็นว่า พาวเวลคงไม่กล่าวสุนทรพจน์ในลักษณะนั้น หากเขาไม่มั่นใจว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีแนวโน้มสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเชื่อว่าพาวเวลจะไม่สร้างความคาดหวังแล้วทำให้ตลาดผิดหวัง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทเซนจิน แคปิตอล (Senjin Capital) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นผลดีกับตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงเอเชีย อย่างน้อยก็ในระยะสั้น และโดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะทำให้การลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีความน่าสนใจน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศอื่นยังคงอยู่ที่ระดับเดิม
ทางด้านนักวิเคราะห์จากบริษัทแวนเอค แอสโซซิเอชันส์ (VanEck Associates) กล่าวว่า สุนทรพจน์ของพาวเวลส่งสัญญาณชัดเจนถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นและพันธบัตรระยะสั้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของแวนเอคยังคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะได้รับแรงหนุนจากการส่งสัญญาณของพาวเวล เนื่องจากนักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สกุลเงินเยนแข็งค่า ซึ่งอาจจะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันคาดว่าผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia) ก็อาจเป็นตัวชี้วัดว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะสามารถรักษาแรงบวกในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่