💥*แบงก์ชาติอังกฤษเตือนตลาดหุ้นโลกทรุด หากฟองสบู่ AI แตก

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการปรับฐานอย่างฉับพลันของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ BoE แสดงความกังวลต่อการพุ่งขึ้นของมูลค่าบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ FPC ระบุว่า มีความเสี่ยงที่สินทรัพย์สหรัฐจะมีการปรับมูลค่าอย่างรุนแรง หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนทั่วโลก ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงโจมตีเฟดอย่างต่อเนื่อง และข่มขู่ว่าจะลดทอนความเป็นอิสระของเฟด

ทั้งนี้ กระแสความคาดหวังและความตื่นตัวเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริษัท OpenAI ที่มีมูลค่าพุ่งขึ้นเป็น 500,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 157,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ส่วนบริษัท Anthropic ก็มีมูลค่าเกือบ 3 เท่า จาก 60,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม เป็น 170,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน

FPC เตือนว่า ความเสี่ยงของการปรับฐานในตลาดอย่างรุนแรงได้เพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดหลายประการ พบว่า มูลค่าหุ้นในตลาดอยู่ในระดับสูงเกินจริง โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นด้าน AI ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้ตลาดหุ้นมีความเปราะบางเป็นพิเศษ หากนักลงทุนลดความคาดหวังต่อ AI

รายงานยังระบุว่า นักลงทุนยังไม่ได้ประเมินความเสี่ยงเหล่านี้อย่างเต็มที่ พร้อมเตือนว่า การปรับฐานอย่างฉับพลันอาจเกิดขึ้นได้ หากความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ

FPC ระบุอีกว่า ในฐานะที่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเศรษฐกิจเปิด และเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก ความเสี่ยงจากแรงกระเพื่อมของตลาดโลกที่ส่งผลต่อระบบการเงินของสหราชอาณาจักรจึงมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในกระแส AI เริ่มสั่นคลอน หลังมีงานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) พบว่า 95% ขององค์กรที่ลงทุนในเทคโนโลยี Generative AI ยังคงไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ จากการลงทุน

ผลการศึกษาดังกล่าวเพิ่มความกังวลว่า มูลค่าหุ้นอาจร่วงลงได้ หากนักลงทุนเริ่มผิดหวังกับผลลัพธ์หรือการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานจริง โดย FPC ระบุว่า สถานการณ์นี้ อาจทำให้เกิดการประเมินใหม่ต่อการคาดการณ์รายได้ในอนาคตที่สูงเกินจริงในขณะนี้

FPC ยังเตือนว่า อุปสรรคสำคัญที่อาจขัดขวางความคืบหน้าของ AI เช่น ความต้องการพลังงาน ข้อมูล หรือห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบ ตลอดจนความก้าวหน้าทางแนวคิดใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานของ AI อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าบริษัท โดยเฉพาะบริษัทที่รายได้ขึ้นอยู่กับการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

นอกจากนี้ FPC ยังระบุถึงความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากการที่รัฐบาลภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ยังคงโจมตีและข่มขู่เฟด

'ในสหรัฐมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด หากความเชื่อมั่นต่อความน่าเชื่อถือของเฟดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันหรือรุนแรง อาจนำไปสู่การปรับมูลค่าสินทรัพย์ในสหรัฐอย่างฉับพลัน รวมถึงตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนและความเสี่ยงที่สูงขึ้น รวมทั้งเกิดแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก'

FPC ระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้ยังเป็นการซ้ำเติมผลกระทบจากสงครามการค้าที่เกิดจากปธน.ทรัมป์ ซึ่งผลกระทบที่แท้จริงยังไม่ได้ปรากฏอย่างเต็มที่