ตลาดทุนอาร์เจนตินาพุ่งกระฉูด ขานรับ "มิเลย์" ชนะเลือกตั้งกลางเทอมแบบถล่มทลายเกินคาด

สินทรัพย์ของอาร์เจนตินาทั้งหุ้น พันธบัตร และค่าเงินพุ่งทะยานขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันในวันจันทร์ (27 ต.ค.) หลังจากพรรค La Libertad Avanza (LLA) ของประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมอย่างท่วมท้นเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) พลิกทุกความคาดหมาย บรรดานักลงทุนต่างมองว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างท่วมท้นต่อนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจสู่แนวทางตลาดเสรีของมิเลย์

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นแรงส่งสำคัญให้กับแผนงานของมิเลย์ ซึ่งถึงแม้จะมาพร้อมกับมาตรการรัดเข็มขัดที่สร้างความเจ็บปวด แต่ก็ประสบความสำเร็จในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ชัยชนะดังกล่าวยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำให้โครงการช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าต่อไปได้

ข้อมูลผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเผยว่า พรรค LLA กวาดคะแนนเสียงทั่วประเทศไปได้กว่า 40% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และที่ถือเป็นการพลิกขั้วทางการเมืองครั้งสำคัญคือ การที่พรรคสามารถคว้าชัยในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอย่างจังหวัดบัวโนสไอเรส ซึ่งเป็นฐานเสียงที่แข็งแกร่งมาอย่างยาวนานของกลุ่มพันธมิตรลัทธิเปรองฝ่ายค้าน ด้วยคะแนนเสียง 41.5% ต่อ 40.8%

นักลงทุนแสดงความเชื่อมั่นอย่างท่วมท้นและตอบสนองในทันที ส่งผลให้สินทรัพย์ทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น โดยพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์ที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศ ดีดตัวขึ้นระหว่าง 7 ถึง 13 เซนต์ โดยพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2581 ทะยานขึ้นถึง 13 เซนต์ ไปซื้อขายที่ราคา 73 เซนต์ต่อดอลลาร์ ซึ่งเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่ดัชนี Merval ของตลาดหุ้นในประเทศ พุ่งทะยานขึ้นถึง 21.8% นับเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของมิเลย์เมื่อปลายปี 2566 ขณะที่หุ้นของบริษัทสัญชาติอาร์เจนตินาที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงถึง 32%

สำหรับเงินเปโซอาร์เจนตินา ซึ่งเพิ่งอ่อนค่าทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) กลับแข็งค่าขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในช่วงแรกของการซื้อขายแข็งค่าขึ้นเกือบ 15% สู่ระดับ 1,300 เปโซต่อดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดแข็งค่าขึ้น 4.3% ที่ระดับ 1,430 เปโซ

ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นการกลับทิศทางอย่างสิ้นเชิงจากสภาวะตลาดที่ผันผวนก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนการเลือกตั้ง เงินเปโซได้อ่อนค่าลงไปราว 25% นับตั้งแต่เดือนเม.ย. และพันธบัตรของประเทศก็ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ประจำปีนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าอัศจรรย์กว่า 100% ในปี 2567

เสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ช่วยเปิดทางให้มิเลย์สามารถเร่งเครื่องการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และยังช่วยลดความเสี่ยงทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศที่อาร์เจนตินากำลังต้องการอย่างมาก

นักวิเคราะห์มองว่า ความเชื่อมั่นที่ฟื้นคืนมานี้ยังอาจนำไปสู่ "วงจรเชิงบวก" (virtuous cycle) ซึ่งในสภาวะดังกล่าว ค่าเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจะจูงใจให้คนในประเทศนำเงินดอลลาร์สหรัฐที่ถืออยู่ออกมาขาย ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกลางสามารถกลับมาสร้างทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ร่อยหรอไปให้เพิ่มขึ้นได้

ขณะนี้ รัฐบาลมีพื้นที่ให้หายใจมากขึ้น และสามารถดำเนินมาตรการขั้นต่อไปจากจุดที่ได้เปรียบกว่าเดิม โดยบรรดานักลงทุนจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ารัฐบาลจะรับมือกับความแข็งแกร่งของค่าเงินที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้อย่างไร