ญี่ปุ่นเผชิญวิกฤตหมีทำร้ายคน รัฐบาลส่งทหารช่วย-หนุนราคาหุ้นสินค้าป้องกันตัวพุ่งกระฉูด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 5, 2025 11:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจส่งกองกำลังป้องกันตนเองเข้าคลี่คลายสถานการณ์หมีทำร้ายคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ขณะที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยแห่เข้าเก็งกำไรในหุ้นของบริษัทผู้ผลิตสินค้าป้องกันตัวจากหมี ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งทะยานสวนทางกับผลประกอบการของบริษัท

ข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นระบุว่า นับตั้งแต่เดือนเม.ย. มีผู้เสียชีวิตจากเหตุหมีทำร้ายแล้วอย่างน้อย 12 ราย ทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ 6 รายในปี 2566 โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุในภูมิภาคโทโฮกุซึ่งมีประชากรเบาบาง

ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จังหวัดอากิตะซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย จะเป็นพื้นที่แรกที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังป้องกันตนเองเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์

สถานการณ์ที่น่ากังวลนี้กลับกลายเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น โดยราคาหุ้นของบริษัท Tiemco Ltd. ผู้จำหน่ายสเปรย์ไล่หมี และบริษัท Miroku Corp. ผู้ผลิตปืนไรเฟิลล่าสัตว์ พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 95% และ 27% ตามลำดับในปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิง Topix ที่ปรับตัวขึ้น 19% อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้นของทั้งสองบริษัทยังเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก

อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น Tiemco สวนทางกับผลประกอบการของบริษัทอย่างสิ้นเชิง โดยบริษัทรายงานผลขาดทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี พร้อมปรับลดคาดการณ์รายได้จากธุรกิจเสื้อผ้าซึ่งเป็นธุรกิจหลัก

เซอิจิ ซาคาอิ ประธานบริษัท Tiemco กล่าวว่า "นักลงทุนให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นของเราอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะไม่สู้ดีนัก" ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มจำหน่ายสเปรย์ไล่หมีในเดือนพ.ค. และขายดีจนหมดลงอย่างรวดเร็วทั้งสองรอบที่มีการเติมสต๊อก

อนึ่ง ปัจจัยเบื้องหลังวิกฤตการณ์ครั้งนี้อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จำกัดแหล่งอาหารตามธรรมชาติของหมี ผลักดันให้พวกมันต้องออกมาหาอาหารใกล้แหล่งชุมชนมากขึ้น

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่เผชิญกับภาวะประชากรลดลงและเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนนายพรานที่มีใบอนุญาตลดน้อยลง ทำให้การควบคุมประชากรหมีตามแบบดั้งเดิมทำได้ยากขึ้น

ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ (เริ่มนับตั้งแต่เดือนเม.ย.) มีรายงานการพบเห็นหมีทั่วประเทศมากกว่า 16,000 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคโทโฮกุและโฮกูริกุ ซึ่งเอกสารของรัฐบาลชี้ว่าภูมิภาคโทโฮกุเป็นพื้นที่ที่มีสถิติการพบเห็นหมีสูงที่สุดในช่วงเดือนพ.ค.ถึงก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ