ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงกับ อีไล ลิลลี่ (Eli Lilly) และโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) เพื่อลดราคายาฉีดควบคุมน้ำหนักของสองบริษัทยายักษ์ใหญ่ รวมถึงยาชนิดเม็ดที่จะวางตลาดในอนาคต ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการเข้าถึงยาราคาแพงเหล่านี้สำหรับชาวอเมริกัน
ข้อตกลงดังกล่าวจะนำไปสู่การปรับลดราคาขายยากลุ่ม GLP-1 สำหรับผู้ประกันตนในโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลอย่าง Medicare และ Medicaid โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางปี 2569 นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์จะเปิดตัวเว็บไซต์ TrumpRx.gov ในเดือนม.ค. เพื่อเสนอขายยาเหล่านี้ในราคาลดพิเศษให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง
ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง ยา Ozempic และ Wegovy ของโนโว นอร์ดิสค์ จะมีราคาอยู่ที่ 350 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับผู้ที่ซื้อผ่านเว็บไซต์ใหม่ TrumpRx ขณะที่ยา Zepbound ของอีไล ลิลลี่ จะมีราคาขายอยู่ที่ 346 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งราคาใหม่เหล่านี้ลดลงราว 68%-74% จากปัจจุบันซึ่งมีราคาสูงตั้งแต่ 1,000-1,350 ดอลลาร์ต่อเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้โครงการ Medicare ราคายา Ozempic, Wegovy และ Zepbound รวมทั้งยาเบาหวาน Mounjaro ของอีไล ไลลี่ จะมีราคาเพียง 245 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยทำเนียบขาวระบุในเอกสาร Fact Sheet ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้ศูนย์บริการ Medicare และ Medicaid สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายยา Wegovy และ Zepbound สำหรับผู้ประกันตนที่มีภาวะโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องได้เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังครอบคลุมถึงยาลดน้ำหนักชนิดเม็ดของทั้งสองบริษัทด้วย โดยหากได้รับการอนุมัติ ยา Wegovy ชนิดรับประทาน จะมีราคาเพียง 150 ดอลลาร์ต่อเดือน ในขณะที่ยาคู่แข่งของอีไล ลิลลี่อย่าง orforglipron จะมีราคาต่อเดือนเท่ากับ Zepbound คือ 346 ดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์กล่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวในโอกาสประกาศข้อตกลงดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) ว่า โครงการ Medicare ไม่เคยให้ความคุ้มครองครอบคลุมยา Wegovy และ Zepbound ขณะที่โครงการ Medicaid ก็แทบจะไม่เคยคุ้มครองเช่นกัน ยาเหล่านี้ "ทำให้ผู้บริโภคต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อเดือน บางตัวยังสูงกว่านั้นมาก... แต่สิ่งนั้นจะยุติลงตั้งแต่วันนี้" ทรัมป์กล่าว
ข้อตกลงนี้ถือเป็นการประกาศที่มีนัยสำคัญทางการเมืองมากที่สุดครั้งหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ที่จะควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยาที่สูงลิ่วในสหรัฐฯ ด้วยการเทียบราคายาในประเทศกับราคาต่ำสุดในต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้เคยประกาศข้อตกลงกับบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer), แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และอีเอ็มดี เซโรโน (EMD Serono) เพื่อขายยาบางชนิดโดยตรงให้กับผู้ป่วยในราคาลดพิเศษ แลกกับการยกเว้นภาษีนำเข้ายา โดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "Most Favored Nation"
"นี่คือยาที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในประเทศของเรา และด้วยเหตุนี้ การประกาศนโยบาย Most Favored Nation ครั้งนี้จึงสำคัญที่สุดในทั้งหมดที่เราเคยประกาศมา" โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์กล่าวในระหว่างการแถลงข่าว "สิ่งนี้จะส่งผลดีต่อชาวอเมริกันมากที่สุด ชาวอเมริกันทุกคน แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในโครงการ Medicaid หรือ Medicare จะสามารถเข้าถึงยากลุ่ม GLP-1 ในราคาเดียวกันได้"
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) ประมาณการว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 40% เป็นโรคอ้วน และจากข้อมูลล่าสุด ผู้ป่วยในสหรัฐฯ จ่ายค่ายาต้นแบบ (brand-name drug) ในราคาที่สูงกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยในประเทศรายได้สูงอื่น ๆ
ทั้งนี้ นอกเหนือจากยาลดน้ำหนักแล้ว อีไล ลิลลี่ และโนโว นอร์ดิสค์ ยังตกลงที่จะจำหน่ายยาอื่น ๆ บางรายการในราคาที่ต่ำลงด้วย ซึ่งรวมถึงยา Emgality สำหรับอาการไมเกรน และ Trulicity ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวานประเภท 2 ของอีไล ลิลลี่ และผลิตภัณฑ์อินซูลินของโนโว นอร์ดิสค์
หุ้นของอีไล ลิลลี่ ปรับตัวขึ้น 1.3% ปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 937.44 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นของโนโว นอร์ดิสค์ ร่วงลง 4% สู่ระดับ 46.51 ดอลลาร์