บีเอชพี กรุ๊ป (BHP Group) ยักษ์ใหญ่เหมืองแร่เบอร์หนึ่งของโลก ประกาศยุติความพยายามรอบใหม่ในการเข้าควบรวมกิจการกับแองโกล อเมริกัน (Anglo American) ภายหลังการเจรจาเบื้องต้นไม่บรรลุผล ส่งผลให้แผนการขัดขวางการควบรวมกิจการระหว่างแองโกลฯ กับคู่แข่งรายอื่นต้องสิ้นสุดลง
แถลงการณ์ของ BHP ในวันนี้ (24 พ.ย.) ระบุว่า แม้บริษัทจะเชื่อมั่นว่าการควบรวมกิจการจะสร้างมูลค่าเชิงกลยุทธ์ได้มหาศาล แต่หลังจากได้หารือกับบอร์ดบริหารของแองโกลฯ แล้ว บริษัทตัดสินใจไม่เดินหน้าต่อ โดยให้เหตุผลว่ามั่นใจในศักยภาพของกลยุทธ์การเติบโตจากภายใน (Organic Growth Strategy) ของตนเองที่มีความแข็งแกร่งเพียงพออยู่แล้ว
การถอนตัวของ BHP ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญก่อนที่ผู้ถือหุ้นของแองโกล อเมริกัน และเทค รีซอร์สเซส (Teck Resources) จากแคนาดา จะลงมติในวันที่ 9 ธ.ค. เพื่ออนุมัติการควบรวมกิจการระหว่างกันมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า การที่ BHP พยายามยื่นข้อเสนอแทรกแซงในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ สะท้อนถึงความกังวลว่าหากแองโกลฯ ผนึกกำลังกับเทคฯ สำเร็จ จะทำให้โอกาสในการเข้าซื้อกิจการเพื่อครองตลาดทองแดงในอนาคตหลุดลอยไป
ก่อนหน้านี้ BHP เคยยื่นข้อเสนอซื้อกิจการแองโกลฯ มาแล้วในปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่า 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ถูกปฏิเสธ สำหรับความพยายามครั้งล่าสุดนี้ แหล่งข่าววงในระบุว่า BHP ได้ปรับโครงสร้างข้อเสนอให้ซับซ้อนน้อยลง หวังจูงใจให้แองโกลฯ เปลี่ยนใจจากดีลของเทคฯ แต่ทางแองโกลฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอนี้ยังไม่มีน้ำหนักมากพอจึงปฏิเสธไป
คาน เปเกอร์ นักวิเคราะห์จาก RBC ในซิดนีย์ ให้ความเห็นว่า "โอกาสที่สินทรัพย์ระดับนี้จะถูกนำมาขายมีไม่บ่อยนัก BHP จึงต้องลองเสี่ยงดู แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้สถานการณ์ฝั่ง BHP ดูไม่ราบรื่นนัก" สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กที่มองว่า การยื่นข้อเสนอแบบกะทันหันนี้สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ถือหุ้นพอสมควร
หลังจากข่าวการยุติเจรจาเผยแพร่ออกมา หุ้นของ BHP ในตลาดซิดนีย์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะย่อตัวลงเมื่อนักลงทุนรับรู้ข่าวดีลล่ม ในขณะที่ฝั่ง BHP ต้องหันกลับไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาเหมืองทองแดงของตนเอง ทั้งเหมืองยักษ์ใหญ่เอสคอนดิดา (Escondida) ในชิลี และโครงการในอาร์เจนตินาต่อไป