เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ประกาศปรับโครงสร้างบริหารครั้งสำคัญเมื่อวันจันทร์ (8 ธ.ค.) โดยทอดด์ โคมส์ หนึ่งในผู้จัดการการลงทุนคนสำคัญ ตัดสินใจลาออกเพื่อไปร่วมงานกับเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ในการดูแลโครงการสินเชื่อและการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะส่งมอบตำแหน่งซีอีโอให้แก่เกร็ก เอเบิล อย่างเป็นทางการในวันปีใหม่
การปรับทัพครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เอเบิลเริ่มวางรากฐานและสร้างทีมของตนเองก่อนขึ้นกุมบังเหียนในวันที่ 1 ม.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการปิดฉาก 6 ทศวรรษตำนาน "เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา" ของบัฟเฟตต์ วัย 95 ปี โดยทางเบิร์กเชียร์ระบุว่า การแต่งตั้งบุคลากรครั้งนี้ตอกย้ำธรรมเนียมของบริษัทที่เลือกผู้นำซึ่งยึดมั่นในวัฒนธรรมองค์กรและมีวิจารณญาณทางธุรกิจที่เฉียบขาด
ไมเคิล แอชลีย์ ชูว์แมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของรันนิง พอยต์ แคปิตอล (Running Point Capital) ให้ความเห็นถึงความเคลื่อนไหวนี้ว่า "เอเบิลกำลังวางตัวขุนพลคู่ใจและคนรุ่นใหม่ฝีมือดีเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความต่อเนื่องกับการปรับองค์กรให้ทันสมัย การเริ่มปรับเปลี่ยนโดยมีบัฟเฟตต์จับตาดูในฐานะประธานบอร์ด เปิดทางให้เอเบิลได้สร้างผลงาน พร้อมพิสูจน์ให้ผู้ถือหุ้นเห็นว่า 'เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา' ให้การยอมรับ"
นอกจากการลาออกของโคมส์ เบิร์กเชียร์ยังมีการเปลี่ยนแปลงภายในอื่น ๆ ได้แก่ มาร์ก แฮมเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ที่จะเกษียณอายุในเดือนมิ.ย. 2570 โดยมี ชาร์ลส์ ชาง จากเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เอเนอร์จี (Berkshire Hathaway Energy) เตรียมมารับช่วงต่อในปีหน้า รวมถึงการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่อย่างที่ปรึกษาทั่วไป (General Counsel) โดยได้ไมเคิล โอซัลลิแวน มารับหน้าที่นี้ ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ประกันภัย เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้างและพลังงาน จะยังคงอยู่ภายใต้การดูแลโดยตรงของเอเบิลต่อไป
ในฝั่งของเจพีมอร์แกน ระบุว่า ทอดด์ โคมส์ จะเริ่มงานในเดือนม.ค. โดยขึ้นตรงต่อเจมี ไดมอน ซีอีโอของธนาคารฯ เพื่อรับหน้าที่หัวหน้ากลุ่มการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน "โครงการความมั่นคงและเสถียรภาพ" (Security and Resiliency Initiative) ซึ่งเป็นแผนระยะ 10 ปี มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ธนาคารฯ ตั้งเป้าสนับสนุนอุตสาหกรรมสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ การป้องกันประเทศ อวกาศ และพลังงาน
เจพีมอร์แกนยังได้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาภายนอกเพื่อกำหนดทิศทางโครงการนี้ โดยมีเจมี ไดมอน เป็นประธาน และดึงบุคคลระดับโลกมาร่วมทีม อาทิ เจฟฟ์ เบซอส (Amazon), ไมเคิล เดลล์ (Dell) และ คอนโดลีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งโคมส์จะเข้าร่วมเป็นกรรมการในสภานี้ด้วย เป้าหมายคือการจัดสรรเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่บริษัทสหรัฐฯ ที่ผ่านการคัดเลือก
เดวิด แวกเนอร์ จากแอ๊ปตัส แคปิตอล แอดไวเซอร์ส (Aptus Capital Advisors LLC) กล่าวถึงทีมบริหารชุดนี้ว่า "ไม่แปลกใจเลยที่เจมี ไดมอน จะสามารถสร้าง 'ทีมอเมริกา' (Team America) ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นกลุ่มนวัตกรที่จะช่วยดูแลและกำหนดทิศทางการบริหารเงินทุนอย่างจริงจังเพื่ออนาคตของธนาคารฯ" สอดคล้องกับความเห็นของชูว์แมนที่มองว่า เจพีมอร์แกนได้ระดมมันสมองระดับท็อปที่เข้าใจกลไกความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองกับภาคธุรกิจมาไว้ด้วยกัน
ทางด้านเจมี ไดมอน ได้กล่าวต้อนรับและชื่นชมโคมส์ผ่านแถลงการณ์ว่า "เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนและผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมรู้จัก ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในการบริหารการลงทุนเคียงบ่าเคียงไหล่กับวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระยะยาวที่ได้รับการเคารพและประสบความสำเร็จที่สุดในยุคของเรา"