แลร์รี เอลลิสัน มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งออราเคิล (Oracle) ประกาศค้ำประกันส่วนบุคคลเป็นวงเงินสูงถึง 4.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนพาราเมาท์ สกายแดนซ์ (Paramount Skydance) ในการยื่นซื้อกิจการวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros Discovery) หวังพลิกเกมชิงสินทรัพย์ล้ำค่าของฮอลลีวูดตัดหน้าเน็ตฟลิกซ์ (Netflix)
เอกสารที่ยื่นต่อทางการเมื่อวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ระบุว่า การค้ำประกันครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อลบข้อกังขาของคณะกรรมการวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่ไม่มั่นใจในแหล่งเงินทุนของพาราเมาท์และความชัดเจนในการสนับสนุนจากตระกูลเอลลิสัน จนตัดสินใจรับข้อเสนอจากเน็ตฟลิกซ์ไปก่อนหน้านี้
นอกจากวงเงินค้ำประกันแล้ว เอลลิสันยังตกลงที่จะไม่เพิกถอนหรือโอนย้ายทรัพย์สินจากกองทุนทรัสต์ของครอบครัวตลอดช่วงเวลาการทำธุรกรรม ขณะที่พาราเมาท์ได้ปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว (Reverse Termination Fee) เป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์เพื่อให้เท่ากับคู่แข่ง และขยายกำหนดเวลาการทำคำเสนอซื้อหุ้น (Tender Offer) ออกไปจนถึงวันที่ 21 ม.ค. 2569
ปัจจุบันพาราเมาท์ยังคงยืนข้อเสนอซื้อหุ้นวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่ราคา 30 ดอลลาร์ต่อหุ้นด้วยเงินสดทั้งหมด โดยมุ่งเป้าไปที่คลังภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์มหาศาล ซึ่งจะเป็นอาวุธสำคัญในศึกสตรีมมิง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ระบุว่าแม้จะพิจารณาข้อเสนอใหม่ของพาราเมาท์ แต่ในขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงคำแนะนำเดิมที่ให้ผู้ถือหุ้นตอบรับดีลของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งหากวอร์เนอร์ บราเธอร์ส เปลี่ยนใจ จะต้องจ่ายค่าปรับให้เน็ตฟลิกซ์สูงถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์
หลังข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป หุ้นวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.53% ขณะที่หุ้นพาราเมาท์บวกกว่า 4.29% ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส อย่างแฮร์ริส แอสโซซิเอตส์ (Harris Associates) แสดงท่าทีพร้อมพิจารณาข้อเสนอของพาราเมาท์หากเงื่อนไขดีกว่าเดิมจริง ขณะที่นักวิเคราะห์จากเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) มองว่าการค้ำประกันของเอลลิสันอาจยังไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะเปลี่ยนใจผู้ถือหุ้นที่ตั้งแง่ไว้แต่แรกได้
สำหรับศึกการแย่งเข้าซื้อกิจการวอร์เนอร์ บราเธอร์ส หากพาราเมาท์ชนะ ก็จะเกิดสตูดิโอที่ใหญ่กว่าดิสนีย์ (Disney) และควบรวมผู้ให้บริการทีวีรายใหญ่สองแห่งเข้าด้วยกัน แต่หากเน็ตฟลิกซ์ชนะ ก็จะตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดสตรีมมิงด้วยฐานสมาชิกรวมกัน 428 ล้านรายทั่วโลก โดยเน็ตฟลิกซ์ให้คำมั่นว่าจะยังคงสนับสนุนการฉายหนังในโรงภาพยนตร์และช่วยลดค่าบริการผ่านการจัดแพ็กเกจร่วมเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
ไม่ว่าดีลนี้จะจบลงที่ฝ่ายใด ทั้งพาราเมาท์และเน็ตฟลิกซ์ต่างต้องเผชิญด่านหินจากการตรวจสอบด้านการผูกขาดกิจการทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป เนื่องจากเป็นการรวมตัวของยักษ์ใหญ่ที่อาจครอบงำสื่อเกือบทั้งหมดในมือบริษัทเดียว นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังแสดงท่าทีที่จะเข้ามาตรวจสอบธุรกรรมนี้ด้วยตนเองอีกด้วย