ตลาดหุ้นฮ่องกงกลับมาคึกคักอย่างชัดเจน หลังบริษัทจีน 6 แห่งเริ่มซื้อขายหุ้นเป็นวันแรกในวันนี้ (30 ธ.ค.) โดยสามารถระดมทุนรวมราว 6.99 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และหุ้นส่วนใหญ่เปิดการซื้อขายเหนือราคาที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดระดมทุนผ่านการเข้าจดทะเบียนหุ้น ขณะที่ฮ่องกงครองความเป็นผู้นำในตลาดทุนหุ้นของเอเชีย
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ในปี 2568 ฮ่องกงระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นรวมได้ราว 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งจากการทำ IPO และการขายหุ้นเพิ่มทุน โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2567 ถึงกว่า 3 เท่า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2564
ในบรรดาบริษัทที่เข้าซื้อขายใหม่ มีเพียงแห่งเดียวที่ราคาหุ้นไม่สูงกว่าราคา IPO ขณะที่หุ้นตัวอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น นำโดย InSilico Medicine Cayman TopCo บริษัทด้านการค้นคว้ายาโดยใช้ Generative AI ปรับตัวขึ้นราว 45% ตามด้วย Beijing 51WORLD Digital Twin Technology บริษัทซอฟต์แวร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 15% และหุ้น USAS Building System ผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กอุตสาหกรรม พุ่งขึ้นมากกว่า 15% ส่วนหุ้น Shanghai Forest Cabin Cosmetics Group แบรนด์สกินแคร์ระดับพรีเมียม ปรับตัวขึ้นราว 9%
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจีนอีก 3 แห่งที่เริ่มทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในวันนี้ ส่งผลให้มูลค่าการทำ IPO เพิ่มขึ้นกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ได้แก่ Knowledge Atlas Technology Joint Stock Co หรือ Zhipu AI เสนอขายหุ้น H จำนวน 37.42 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 116.20 ดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อระดมทุน 4.35 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ขณะที่ Shanghai Iluvatar CoreX Semiconductor เสนอขายหุ้น 25.4 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 144.60 ดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อระดมทุน 3.67 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ส่วน Shenzhen Edge Medical ผู้ผลิตหุ่นยนต์ผ่าตัด วางแผนเสนอขายหุ้น 27.72 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 43.24 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นมูลค่าระดมทุนราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง
ทั้งนี้ การเข้าซื้อขายของหุ้นใหม่ 6 บริษัท และการเปิดตัว IPO ใหม่อีก 3 บริษัท ตอกย้ำบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการทำ IPO ของภูมิภาค โดยขณะนี้มีบริษัทมากกว่า 300 แห่งยื่นขอเข้าจดทะเบียนแล้ว และคาดว่าแรงส่งดังกล่าวจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569
สำหรับกำหนดการในระยะถัดไปนั้น หุ้นของ Shanghai Biren Technology มีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 ม.ค. ขณะที่บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์อย่าง MiniMax Group ยังคงอยู่ระหว่างกระบวนการเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง