World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 19, 2018 06:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ย. 2561

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่า จีนต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐและยังได้ส่งรายการสินค้าจำนวนมากให้สหรัฐได้ทราบถึงความตั้งใจของจีนที่จะเปิดกว้างทางการค้า อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัท Nvidia Corp ได้ฉุดหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,413.22 จุด พุ่งขึ้น 123.95 จุด หรือ +0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,736.27 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด หรือ +0.22% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,247.87 จุด ลดลง 11.16 จุด หรือ -0.15%

ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงราว 2.22% ดัชนี S&P500 ลดลง 1.61% และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.15%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ หลังจากบริษัท Nvidia Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากรัฐมนตรีหลายคนของอังกฤษประกาศลาออก เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นต่อสหภาพยุโรป (EU)

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 357.71 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,341.00 จุด ลดลง 12.67 จุด หรือ -0.11% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.20 จุด ลดลง 8.42 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,013.88 จุด ลดลง 24.13 จุด หรือ -0.34%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากรัฐมนตรีหลายคนของอังกฤษประกาศลาออก เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นต่อสหภาพยุโรป (EU)

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,013.88 จุด ลดลง 24.13 จุด หรือ -0.34%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 1% ในระหว่างวัน จากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 6% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดทรงตัวที่ 56.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงทั้งสิ้น 6.2%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 66.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 4.9%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองในอังกฤษ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,223.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 1.2%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.9 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 14.382 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 846.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 17.20 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1154.60 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) หลังจากนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดใกล้ถึงจุดที่จะกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เป็นกลางแล้ว โดยนักลงทุนมองว่าการแสดงความเห็นดังกล่าวของรองประธานเฟดนั้น อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.84 เยน จากระดับ 113.59 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9997 ฟรังก์ จากระดับ 1.0057 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3164 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3170 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1412 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1348 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2796 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7330 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7290 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 25,413.22 จุด เพิ่มขึ้น 123.95 จุด, +0.49%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,736.27 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด, +0.22%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,247.87 จุด ลดลง 11.16 จุด, -0.15%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,341.00 จุด ลดลง 12.67 จุด, -0.11%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,013.88 จุด ลดลง 24.13 จุด, -0.34%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.20 จุด ลดลง 8.42 จุด, -0.17%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 35,457.16 จุด เพิ่มขึ้น 196.62 จุด, +0.56%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,083.60 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด, +0.95%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,706.38 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, +0.72%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,012.35 จุด เพิ่มขึ้น 56.61 จุด, +0.95%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,183.53 จุด เพิ่มขึ้น 80.19 จุด, +0.31%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,083.34 จุด เพิ่มขึ้น 130.75 จุด, +1.88%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,679.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.94 จุด, +0.41%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,092.40 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด, +0.21%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,797.09 จุด ลดลง 29.37 จุด, -0.30%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,680.34 จุด ลดลง 123.28 จุด, -0.57%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,730.60 จุด ลดลง 5.40 จุด, -0.09%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,822.80 จุด ลดลง 2.40 จุด, -0.04%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ