ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ถูกถอดออกจากดัชนี DAX ในตลาดหุ้นเยอรมนี วันนี้ หลังจากที่บริษัทมีมูลค่าตลาดลดลงต่ำกว่าบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรก
หุ้นของลุฟท์ฮันซ่าร่วงลงกว่า 40% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.พ. และในช่วงสองปีที่ผ่านมา ลุฟท์ฮันซ่าสูญเสียมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap ไปถึงเกือบสองในสาม
ลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมดมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ในไตรมาสแรกของปี 2563 รายได้ของบริษัทลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 6.4 พันล้านยูโร (7.2 พันล้านดอลลาร์) ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านยูโร
โดยในตอนนั้น คาร์สเทน สปอหร์ ประธานคณะกรรมการบริหารของลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า การจราจรทางอากาศทั่วโลกที่แทบจะหยุดนิ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในเดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียว จำนวนผู้โดยสารของลุฟท์ฮันซ่าทรุดลงไปถึง 98.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับทางสายการบินทำให้ผู้บริหารของลุฟท์ฮันซ่าได้ออกมากล่าวหลายครั้งว่า การที่ธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงินช่วยเหลือของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีได้เสนอวงเงินช่วยเหลือ 9 พันล้านยูโร (1 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับดูแลของทางสายการบินได้เห็นชอบแล้ว แต่ยังคงต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของลุฟท์ฮันซ่า
อย่างไรก็ตาม สื่อเยอรมนีรายงานว่า การประชุมระหว่างรัฐมนตรีกับผู้ถือหุ้นของลุฟท์ฮันซ่าที่กระทรวงการคลังในวันนี้ ประสบกับความล้มเหลว โดยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ เนื่องจากสองฝ่ายเห็นแย้งกันเรื่องสัดส่วนการถือครองหุ้นของรัฐบาลเยอรมนี