นายดาเนียล เทย์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมที่เข้าข่ายใช้ข้อมูลวงในเพื่อซื้อขายหุ้น (inside trading) และรองศาสตราจารย์ด้านบัญชีของวอร์ตัน สคูลแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียได้ตั้งข้อสงสัยว่า นายอัลเบิร์ต บอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ อาจใช้ข้อมูลวงในเพื่อขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทมูลค่าเกือบ 5.6 ล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ไฟเซอร์ประกาศความคืบหน้าในการพัฒาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวได้หนุนราคาหุ้นไฟเซอร์พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง
ราคาหุ้นไฟเซอร์ทะยานขึ้นเกือบ 15% เมื่อวันจันทร์ หลังจากไฟเซอร์แถลงว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับ BioNTech มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และบริษัทจะจดทะเบียนวัคซีนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า
ทั้งนี้ นายเทย์เลอร์ซึ่งติดตามการซื้อขายหุ้นของบรรดาผู้บริหารของบริษัทที่ทำการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 มาโดยตลอดนั้นได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ระยะเวลาที่กระชั้นชิดระหว่างการที่นายบอร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ส่งคำสั่งขายหุ้น และการที่ไฟเซอร์แถลงข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
นายเทย์เลอร์มองว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่บรรดาผู้บริหารของบริษัทผลิตยาต่างๆ จะส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นก่อนที่บริษัทจะประกาศข้อมูลหรือผลการทดลองยา พร้อมกับกล่าวว่า กรณีการขายหุ้นของซีอีโอไฟเซอร์นั้นคล้ายกับเมื่อครั้งที่บรรดาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโมเดอร์นาได้ส่งคำสั่งขายหุ้นเพียงไม่นานก่อนที่ทางบริษัทจะประกาศข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวัคซีนของบริษัทในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารเหล่านั้นเทขายหุ้นโมเดอร์นาเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ แม้ทางบริษัทยังไม่เสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนโดยสมบูรณ์ก็ตาม
"ผมไม่รู้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะตระหนักถึงสัญญาณที่ผิดปกตินี้หรือไม่" นายเทเลอร์กล่าว