Robinhood บริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ ซึ่งให้บริการซื้อขายหุ้นผ่านแอปพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการซื้อขายหุ้น GameStop แล้ว หลังจากที่ถูกนักลงทุนรุมฟ้องก่อนหน้านี้
"ขณะนี้ นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นโดยไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด โดยบริษัทได้ยกเลิกมาตรการชั่วคราวในการจำกัดการซื้อหุ้นของนักลงทุนแล้ว" แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้ Robinhood ได้ถูกผู้ใช้บริการฟ้องรวมกว่า 30 คดี หลังจากที่ทางบริษัทได้ทำการบล็อกนักลงทุนมิให้เข้าซื้อหุ้น GameStop และหุ้นอีก 12 ตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความผันผวนของราคา
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งของ Robinhood จากจำนวนทั้งหมดกว่า 13 ล้านราย ได้พากันยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในหลายรัฐทั่วสหรัฐ รวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย นิวเจอร์ซีย์ เท็กซัส และฟลอริดา โดยกล่าวหาว่า การกระทำของบริษัทได้ละเมิดกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งสัญญาที่มีต่อลูกค้า
ราคาหุ้น GameStop มีการซื้อขายที่ระดับ 2.80 ดอลลาร์/หุ้นในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้น บริษัทประกาศว่าจะปิดสาขามากกว่า 300 สาขา ท่ามกลางปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่บริษัทเผชิญอยู่
บรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์เห็นถึงปัญหาทางการเงินของ GameStop และเก็งว่าบริษัทจะต้องปิดกิจการในไม่ช้า จึงได้ทำการขายชอร์ตหุ้นดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถทำกำไร หากราคาหุ้นของบริษัทยังคงร่วงลงต่อไป
อย่างไรก็ดี นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit แสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของเฮดจ์ฟันด์ จึงได้รวมตัวกันผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวในราคาแพง หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้
การรวมพลังของนักลงทุนรายย่อยดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้น 400% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ทะยานขึ้นถึง 1,700% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้เฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 570,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ขณะที่ราคาหุ้น GameStop กำลังพุ่งขึ้นอยู่นั้น Robinhood ก็ได้ประกาศบล็อกนักลงทุนมิให้เข้าซื้อหุ้น GameStop ในวันที่ 28 ม.ค. โดยอนุญาตให้นักลงทุนสามารถขายหุ้นที่ถือครองอยู่ แต่จะไม่สามารถซื้อหุ้นใหม่ได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อนักลงทุน โดยมองว่า Robinhood กำลังสกัดการพุ่งขึ้นของราคาหุ้น GameStop เพื่อช่วยเหลือบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์มิให้ขาดทุนต่อไป ขณะที่ราคาหุ้น GameStop ทรุดตัวลงกว่า 60% ในการซื้อขายในวันดังกล่าว
นายเบรนดอน เนลสัน หนึ่งในโจทก์ที่ยื่นฟ้อง Robinhood ระบุในคำฟ้องว่า "Robinhood ได้ทำการบล็อกหุ้น GameStop ด้วยความจงใจและเจตนาที่จะปั่นตลาด โดยได้ละเมิดสัญญาด้วยการไม่ยอมเปิดเผยว่าทางบริษัทกำลังสุ่มถอดหุ้นที่สามารถทำกำไรออกจากแพลทฟอร์มการซื้อขาย"
นายเนลสันอ้างว่า การกระทำของ Robinhood ทำให้เขาสูญเสียโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น GameStop ขณะที่ราคาหุ้นกำลังทะยานขึ้น
ทางด้าน Robinhood ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อสกัดความผันผวนในตลาด และปกป้องนักลงทุน โดยบริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ และการบริหารจัดการความเสี่ยง
ต่อมา ในวันที่ 1 ก.พ. Robinhood อนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น GameStop ได้ 1 หุ้น และซื้อสัญญาออปชั่นได้ 5 สัญญา ขณะที่เมื่อวานนี้ Robinhood อนุญาตให้นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นดังกล่าวได้ 500 หุ้น ก่อนที่จะประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการซื้อหุ้นในที่สุด
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า คีท กิล ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปลุกระดมนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทให้ลุกขึ้นมาสู้กับเฮดจ์ฟันด์ในปรากฎการณ์ GameStop ที่โด่งดังไปทั่วโลก กำลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนในขณะนี้
กิล ใช้นามแฝงว่า u/DeepF******Value ในห้อง WallStreetBets และมีช่องยูทูบเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า Roaring Kitty
นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า การลงทุนของกิลใน GameStop ถือเป็นการขัดกันของผลประโยชน์หรือไม่ เนื่องจากเขามีอาชีพเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ขณะเดียวกัน นางแม็กซีน วอเตอร์ส ประธานคณะกรรมการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ กล่าวว่า ตนต้องการให้กิลเข้าให้การต่อทางคณะกรรมการฯในวันที่ 18 ก.พ.เกี่ยวกับบทบาทของเขาในมหากาพย์ GameStop
"ดิฉันมีเขาอยู่ในรายชื่อแล้ว บางคนก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะมา แต่ดิฉันต้องการให้กิลมาที่นี่" นางวอเตอร์สกล่าว
มีการกล่าวกันว่า กิลสามารถฟันกำไรมหาศาลในการสู้กับเฮดจ์ฟันด์ในครั้งนี้ แต่กิลยืนยันว่า เขาขาดทุนมากกว่า 13 ล้านดอลลาร์ หรือราว 390 ล้านบาทเฉพาะในวันอังคารเพียงวันเดียว ขณะที่หุ้น GameStop ดิ่งลงในวันดังกล่าว
กิลถือเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับมวลหมู่นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets เพื่อให้รวมพลังสู้กับเฮดจ์ฟันด์ จนทำให้ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว
กิลเปิดเผยว่า เขาได้ถือหุ้น GameStop ถึง 50,000 หุ้น และคอลล์ออปชั่นจำนวน 500 ออปชั่นนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยขณะที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้ทำให้ผลตอบแทนจากการถือหุ้น GameStop ของเขาสูงถึงกว่า 2,000% หรือราว 33 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อราคาหุ้นดิ่งลง 60% ในวันอังคาร ก็ได้ทำให้เขาขาดทุนทันที 13.6 ล้านดอลลาร์ หลังจากขาดทุนมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์