World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 13, 2021 07:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคัก ก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกนและโกลด์แมน แซคส์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,996.18 จุด เพิ่มขึ้น 126.02 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 15.08 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,733.24 จุด เพิ่มขึ้น 31.32 จุด หรือ +0.21%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่หุ้นกลุ่มเดินทางปรับตัวลงสวนทางตลาดโดยถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลัก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 460.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.69%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,559.25 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,790.51 จุด เพิ่มขึ้น 102.58 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด ซึ่งยังคงส่งผลถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตา จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 74.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 75.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,805.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.5 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 26.239 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 27.3 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 1,123 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 47.30 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,859.30 ดอลลาร์/ออนซ์

--ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังมีรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นก็ตาม

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 92.2596 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9154 ฟรังก์ จากระดับ 0.9142 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2465 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2455 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 110.33 เยน จากระดับ 110.71 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1857 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1876 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3889 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7473 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7491 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,996.18 จุด เพิ่มขึ้น 126.02 จุด, +0.36%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 15.08 จุด, +0.35%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,733.24 จุด เพิ่มขึ้น 31.32 จุด, +0.21%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด, +0.05%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,559.25 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด, +0.46%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,790.51 จุด เพิ่มขึ้น 102.58 จุด, +0.65%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 52,372.69 จุด ลดลง 13.50 จุด, -0.03%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,078.57 จุด เพิ่มขึ้น 38.72 จุด, +0.64%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,512.89 จุด ลดลง 7.69 จุด, -0.51%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,913.87 จุด เพิ่มขึ้น 78.95 จุด, +1.16%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 15.74 จุด, +0.50%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,515.24 จุด เพิ่มขึ้น 170.70 จุด, +0.62%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,547.84 จุด เพิ่มขึ้น 23.75 จุด, +0.67%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,814.33 จุด เพิ่มขึ้น 152.85 จุด, +0.87%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,246.47 จุด เพิ่มขึ้น 28.52 จุด, +0.89%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,569.02 จุด เพิ่มขึ้น 628.60 จุด, +2.25%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,333.50 จุด เพิ่มขึ้น 60.20 จุด, +0.83%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,604.90 จุด เพิ่มขึ้น 59.60 จุด, +0.79%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ