ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะปิดฉากการซื้อขายปี 2565 ในวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าบรรยากาศในตลาดจะยังคงซบเซาเข้าสู่ช่วงปีใหม่
ข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวย่ำแย่ในปีนี้ โดยทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3 ปีติดต่อกัน โดยขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 9.5% นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทรุดตัวลง 20.6% และ 34.7% ตามลำดับ
นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างระบุตรงกันว่า ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" จะไม่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ "ซานต้า แรลลี่" มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงในเดือนธ.ค.เพียง 18 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 2493
"ไม่มีซานต้าแรลลี่ในปีนี้ มีแต่กรินช์ที่ปรากฎตัวต่อนักลงทุนในเดือนนี้" นายเกรก บาสซุค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AXS Investments กล่าว
ทั้งนี้ "กรินช์" (grinch) เป็นชื่อของตัวละครของหนังสือเด็กเรื่อง How the Grinch Stole Christmas! ซึ่งเป็นตัวละครอารมณ์ร้ายที่ต้องการทำลายความสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
"ซานต้าแรลลี่มักเกิดจากความหวังว่าจะมีปัจจัยผลักดันการขยายตัวของตลาดและเศรษฐกิจ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นลบ, ความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งนโยบายของเฟดได้ขัดขวางไม่ให้ซานต้าปรากฎตัวในช่วงสิ้นปีนี้" นายบาสซุคกล่าว
ส่วนนายหลุยส์ นาเวลลิเออร์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Navellier & Associates กล่าวว่า "เรายังไม่เห็นวี่แววว่าซานต้าจะมาในปีนี้ โดยตลาดมีแต่ข่าวร้ายเต็มไปหมด และเฟดจะยังไม่ดำเนินการอะไรก่อนถึงเดือนก.พ.ปีหน้า"
ส่วนนางซิลเวีย จาบลอนสกี ซีอีโอและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Defiance ETFs กล่าวว่า นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดกำลังเป็นอุปสรรคต่อการเกิดปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในปีนี้
"เฟดกำลังปิดถนนขวางทางรถเลื่อนของซานต้า" นางจาบลอนสกีกล่าว
นางจาบลอนสกีระบุว่า ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณอย่างเข้มงวดและชัดเจนว่า เขาไม่มีแผนที่จะชะลอ หรือหันเหทิศทางจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายคริส ลาร์คิน นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า "เรากำลังเข้าสู่ช่วงปลายปี และนักลงทุนต่างก็รอคอยปรากฎการณ์ 'ซานต้า แรลลี่' แต่ขณะนี้ตลาดกลับร่วงลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนคาดหวังว่าการที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอาจจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาด แต่เฟดและนายพาวเวลยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน"
ด้านนายเอ็ด โมยา นักกลยุทธ์ด้านการตลาดอาวุโสของบริษัท Oanda ระบุว่า "เฟดใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด โดยได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4% ภายในเวลา 9 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป"