สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (14 พ.ค.) โดยฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงในระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าด้านการค้า รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.03% แตะที่ระดับ 101.037
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8426 ฟรังก์ จากระดับ 0.8406 ฟรังก์ในวันอังคาร (13 พ.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3976 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3940 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.72 เยน จากระดับ 147.50 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1178 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1185 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3264 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3300 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าด้านการค้าเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางเยือนประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดซาอุดีอาระเบียให้คำมั่นสัญญาที่จะลงทุนในสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาอาจสนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.สีภายในปลายสัปดาห์นี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนประสบความสำเร็จในการปรับลดภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันในการเจรจาที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกเหนือจากความคืบหน้าด้านการค้าแล้ว นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยดัชนี PPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ เวลา 08.40 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนมี.ค.