ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ สอดคล้องการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาหนี้ของสหรัฐ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายในวันนี้
ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.22% สู่ระดับ 99.78 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.25% สู่ระดับ 1.13 เทียบยูโร และปรับตัวลง 0.07% สู่ระดับ 143.57 เยน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งทะลุระดับ 5.1% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2566 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 4.6% หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติอย่างฉิวเฉียดต่อร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายด้วยคะแนนเสียง 215-214 เสียง ก่อนส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาต่อไป
การผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของแกนนำพรรครีพับลิกัน ซึ่งใช้เวลา 2 เดือนที่ผ่านมาในการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหามากกว่า 1,000 หน้า และภาคผนวกอีก 42 หน้า รวมทั้งใช้เวลา 2 วันที่ผ่านมาในการแก้ไขรายละเอียดในนาทีสุดท้าย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "ร่างกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และมีความสวยงาม"
นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้วุฒิสภาเร่งพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ขณะที่เขามีเป้าหมายส่งร่างกฎหมายนี้ให้ถึงโต๊ะของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายรายกล่าวว่า พวกเขาจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญบางประการ ก่อนที่จะยอมลงคะแนนสนับสนุนร่างกฎหมายนี้
ร่างกฎหมายที่มีการลงมติในวันนี้ ได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มเพดานการหักภาษีของมลรัฐและท้องถิ่น (SALT) สู่ระดับ 40,000 ดอลลาร์ สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 500,000 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อหวังได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ไม่พอใจต่อร่างกฎหมายฉบับเดิม
ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียภาษีในสหรัฐยื่นแบบแสดงภาษีรายได้ต่อกรมสรรพากร พวกเขาสามารถหักภาษีที่จ่ายให้กับมลรัฐและท้องถิ่นออกจากรายได้พึงประเมิน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐบาลกลาง
ก่อนหน้านี้ ในปี 2560 ภายใต้กฎหมายปฏิรูปภาษีของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก กฎหมายดังกล่าวได้จำกัดการหักภาษี SALT ไว้ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในรัฐที่มีภาษีสูง เช่น แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหักภาษีท้องถิ่นได้เต็มจำนวนอีกต่อไป
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะเร่งกระบวนการตัดวงเงินในโครงการ Medicaid และยกเลิกการลดหย่อนภาษีพลังงานสะอาดในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์นิยมสายเหยี่ยว
ร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรให้การอนุมัติในวันนี้ ถือเป็นการสานต่อกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานสำคัญของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์