แม้ญี่ปุ่นยังมีการใช้ธนบัตรในระดับสูง แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประเมินว่า แนวโน้มการใช้งานธนบัตรอาจลดลงอย่างมากในอนาคต เนื่องจากกระแสดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ BOJ ต้องเร่งวางแผนและพัฒนาระบบการชำระเงินให้ทันสมัยและพร้อมรองรับสภาพสังคมใหม่
BOJ กำลังพิจารณาแนวทางการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยได้เริ่มโครงการนำร่องมาตั้งแต่ปี 2566 พร้อมทั้งมีการหารือร่วมกับภาคเอกชนและรัฐบาล เพื่อออกแบบโครงสร้างและกลไกของระบบการเงินใหม่นี้
แนวโน้มการชำระเงินแบบไร้เงินสดในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยจากข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ในปี 2567 สัดส่วนการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 42.8% จาก 13.2% ในปี 2553 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 40% ถึงหนึ่งปี
แม้ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ช้ากว่าหลายประเทศในด้านเทคโนโลยีการชำระเงิน แต่การเติบโตของการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลทำให้ผู้กำหนดนโยบายต้องตระหนักและปรับตัว เพื่อให้ระบบการชำระเงินมีความสะดวก มีประสิทธิภาพ เข้าถึงได้ง่าย และปลอดภัยในระยะยาว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ BOJ มองว่า CBDC มีศักยภาพที่จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของระบบการเงินในอนาคตของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม BOJ ยังไม่คาดว่าความต้องการใช้เงินสดในประเทศจะหมดไปในเร็ววัน