สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (11 มิ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.47% แตะที่ 98.631
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.51 เยน จากระดับ 144.96 เยนในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8205 ฟรังก์ จากระดับ 0.8230 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3663 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3690 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1486 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1420 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3547 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3494 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย.
ดัชนี CPI ที่ออกมาต่ำกว่าคาดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ชะลอตัวลง และฉุดสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง นอกจากนี้ ยังทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อ ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้