สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (10 ก.ค.) โดยปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ระดับ 97.652
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7971 ฟรังก์ จากระดับ 0.7949 ฟรังก์ในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.24 เยน จากระดับ 146.33 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3672 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3694 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1692 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1714 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3574 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3588 ดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.357% หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 235,000 ราย
ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 17-18 มิ.ย.ในวันพุธ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อนั้นจะไม่มากนักและเป็นผลกระทบชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มีกรรมการเฟดเพียงไม่กี่คนที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค.
ในการประชุมวันดังกล่าว คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดลงครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้