สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.43% แตะที่ระดับ 98.256
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.88 เยน จากระดับ 147.44 เยนในวันพุธ (13 ส.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8085 ฟรังก์ จากระดับ 0.8056 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3814 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3771 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1642 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1700 ดอลลาร์ในวันพุธ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3533 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3567 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.4% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย.
หลังการเปิดเผยดัชนี PPI นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. จากก่อนหน้านี้ที่มีความหวังว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
ทางด้านแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เธอไม่เห็นถึงความจำเป็นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่อัลเบอร์โต มูซาเลม ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ความคิดที่ว่าเฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
สำหรับข้อมูลเศรษฐด้านอื่น ๆ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย