สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (22 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งรวมถึงสตีเฟน มิแรน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% แตะที่ 97.339
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.73 เยน จากระดับ 147.96 เยนในวันศุกร์ (19 ก.ย.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7925 ฟรังก์ จากระดับ 0.7955 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3821 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3776 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1797 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3517 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3469 ดอลลาร์
สตีเฟน มิแรน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดได้แสดงความเห็นในวันจันทร์ว่า นโยบายการเงินของเฟดในขณะนี้ถือเป็นระดับที่เข้มงวดแล้ว พร้อมกับกล่าวว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มิแรนเป็นกรรมการเฟดที่โหวตสวนมติในที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยการสนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5%
ขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนของเฟดได้แสดงความสงสัยถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2567 พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับลดเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป
อัลเบอร์โต มูซาเลม ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับความเสี่ยงอันเนื่องมาจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น แต่การฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Greater Providence Chamber of Commerce (GPCC) ในวันนี้ (23 ก.ย.) เวลา 12.35 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.35 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)