สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ ที่มีกำหนดเส้นตายในวันที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 97.905
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.64 เยน จากระดับ 149.44 เยนในวันศุกร์ (26 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7972 ฟรังก์ จากระดับ 0.7975 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3914 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3937 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1731 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1704 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3438 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3410 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับแกนนำทั้งสี่ของสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาวในวันนี้ (30 ก.ย.) ตามเวลาไทย เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงวิกฤติชัตดาวน์ โดยแกนนำทั้งสี่คนได้แก่ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร, จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ทางกระทรวงจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ หากสมาชิกสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงชัตดาวน์ได้ก่อนกำหนดเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ (ตรงกับเวลา 11.00 น.ของวันที่ 1 ต.ค.ตามเวลาไทย) โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 15 ต.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสู่ระดับ -8.7 ในเดือนก.ย. จากระดับ -1.8 ในเดือนส.ค. โดยดัชนีมีค่าเป็นลบ บ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตในรัฐเท็กซัส
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 4.0% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ส่วนเมื่อเทียบรายปี ดัชนีเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนส.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเพื่อการจำนอง
ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาจนกระทั่งปิดการขาย