สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (30 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะถูกปิดทำการ หรือ ชัตดาวน์
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 97.776
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.87 เยน จากระดับ 148.64 เยนในวันจันทร์ (29 ก.ย.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ0.7961 ฟรังก์ จากระดับ 0.7972 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3918 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3914 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1741 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1731 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3449 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3438 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้น 19,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.227 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 7.208 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่การจ้างงานลดลง 114,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.126 ล้านตำแหน่ง และตัวเลขปลดออกจากงานลดลง 62,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 1.725 ล้านตำแหน่ง
ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS เป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวในตลาดแรงงาน และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยล่าสุด FedWatch ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยลบจากความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเผชิญภาวะชัตดาวน์ โดยหากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะเวลา 7 สัปดาห์ หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันพุธที่ 1 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ตามเวลาไทย ซึ่งจะเป็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ทางกระทรวงจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหากรัฐบาลเผชิญภาวะชัตดาวน์ โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 15 ต.ค.