ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าหลังเฟดเผยรายงานประชุม ตลาดจับตาชัตดาวน์

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 9, 2025 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า แม้กรรมการเฟดยังคงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ก็มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่แผ่วลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.34% แตะที่ 98.915

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 152.70 เยน จากระดับ 151.83 เยนในวันอังคาร (7 ต.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8020 ฟรังก์ จากระดับ 0.7981 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3957 ดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3951 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1620 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1658 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3430 ดอลลาร์

รายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ของเฟดระบุว่า การที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นนั้น ถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดก็ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง นอกจากนี้ แม้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ แต่กรรมการเฟดไม่ได้ระบุถึงช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์กล่าวว่า อีกปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า มาจากนักลงทุนพากันถือครองดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของปธน.ทรัมป์

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะเผชิญแรงกดดันให้หาทางยุติภาวะชัตดาวน์ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ทหารประจำการกว่า 1.3 ล้านนาย รวมทั้งสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ชาติหลายแสนนาย และเจ้าหน้าที่พลเรือนจำนวนมากของกระทรวงกลาโหม จะไม่ได้รับเงินเดือนตามกำหนดในวันที่ 15 ต.ค. หากการชัตดาวน์ยังคงยืดเยื้อต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ