ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อนค่าเทียบดอลล์ วิตกการเมืองฝรั่งเศสไม่แน่นอน

ข่าวต่างประเทศ Friday October 10, 2025 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส ส่วนเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนได้ลดคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.63% แตะที่ 99.538

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 153.18 เยน จากระดับ 152.70 เยนในวันพุธ (8 ต.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8074 ฟรังก์ จากระดับ 0.8020 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4031 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3957 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1547 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1620 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3390 ดอลลาร์

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กำลังมองหานายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ในรอบไม่ถึง 2 ปี โดยหวังว่าผู้ดำรงตำแหน่งคนใหม่จะสามารถนำงบประมาณผ่านสภาที่กำลังเผชิญวิกฤตได้

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงนับตั้งแต่เซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของฝรั่งเศสภายในระยะเวลา 2 ปี ได้ยื่นใบลาออกพร้อมคณะรัฐมนตรีเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 9 และแทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราว ส่งผลให้นักลงทุนขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่จำเป็น

วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งที่ 6 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 45 แต่คะแนนสนับสนุนไม่ถึง 60 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. ส่งผลให้การชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรส (CBO) ประมาณการว่า พนักงานของรัฐบาลกลางประมาณ 750,000 คนจะถูกสั่งพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างในช่วงการชัตดาวน์

ทั้งนี้ การขาดแคลนข้อมูลจากภาครัฐได้ทำให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยล่าสุด จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับความอ่อนแอ

ส่วนเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวเปิดการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนเมื่อวานนี้ โดยเขากล่าวเพียงว่า ธนาคารชุมชนมีความสำคัญต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ และย้ำว่าเฟดจะรับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารธนาคารชุมชน และพร้อมที่จะปรับการกำกับดูแลให้เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ