ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจ-ผลกระทบการปิดหน่วยงานรัฐบาล

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 8, 2025 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบระหว่างนโยบายการเงินที่คุมเข้มของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กับความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ระดับ 99.605

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าแตะ 0.8050 ฟรังก์สวิสในวันศุกร์ (7 พ.ย.) จาก 0.8066 ฟรังก์ในวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) และอ่อนค่าแตะ 1.4044 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.4113 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าแตะ 153.34 เยนในวันศุกร์ จาก 153.14 เยนในวันพฤหัสบดี

ส่วนยูโรแข็งค่าแตะ 1.1567 ดอลลาร์ในวันศุกร์ จาก 1.1544 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ปอนด์แข็งค่าแตะ 1.3166 ดอลลาร์ จาก 1.3132 ดอลลาร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยท่ามกลางการปิดหน่วยงานรัฐบาลในวอชิงตันเป็นเวลานาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ไม่สามารถเผยแพร่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค. ตามกำหนดในวันศุกร์ เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งรายงานดังกล่าวมักถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง 0.002% อยู่ที่ 4.091%

บรรดานักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบจากข้อมูลที่ส่งสัญญาณเตือนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกของจีนลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากหลายเดือนที่จีนเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงที่ ขณะที่ทั้งธนาคารกลางของสหรัฐฯ และของสหราชอาณาจักรคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2569

ดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วันในสัปดาห์ก่อน หลัง เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยอมรับว่า การปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมมีความเสี่ยง แต่ดอลลาร์ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในวันพฤหัสบดีจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ

นักเศรษฐศาสตร์ของเจฟเฟอรีส์กล่าวว่า การประชุมเฟดเดือนธ.ค. ขึ้นอยู่กับภาพรวมตลาดแรงงานเป็นหลัก ตลาดจึงตอบสนองเกินจริงต่อสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับตลาดแรงงาน โดยย้ำว่าการขาดข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลทำให้ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น

เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลทำให้รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรถูกเลื่อนออกไป นักลงทุนจึงหันไปใช้ข้อมูลภาคเอกชนซึ่งแสดงว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานในเดือนต.ค. ทั้งในภาครัฐและค้าปลีก การลดต้นทุนและการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ก็ทำให้มีการปลดคนงานเพิ่มขึ้น

บาร์เคลย์สประเมินเมื่อต้นสัปดาห์ว่า มีโอกาส 60% ที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ จะสิ้นสุดลงระหว่างวันที่ 1121 พ.ย. และมีโอกาส 15% ที่อาจยืดออกไปถึงเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ