ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ ใกล้จะยุติลง
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 99.589
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8048 ฟรังก์ จากระดับ 0.8050 ฟรังก์ในวันศุกร์ (7 พ.ย.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4017 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4044 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 154.07 เยน จากระดับ 153.34 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1561 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1567 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3180 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3166 ดอลลาร์
ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และอาจทำให้การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลยุติลง หลังจากสมาชิกพรรคเดโมแครตสายกลางได้ลงคะแนนในเบื้องต้นสนับสนุนข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ วุฒิสภาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 เห็นชอบต่อมติ procedural vote ซึ่งเป็นกระบวนการเบื้องต้นในการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวให้มีความคืบหน้าไปสู่การลงมติขั้นสุดท้าย โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ในระดับเท่ากับปีที่ผ่านมาไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2569 และจะจัดสรรงบประมาณเต็มปีให้กับกระทรวงเกษตร, กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก, โครงการก่อสร้างทางทหาร และการดำเนินงานของสภาคองเกรส
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ มีกำหนดจัดการประชุมอีกในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและอาจมีการลงมติขั้นสุดท้าย โดยหากวุฒิสภาอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นลำดับต่อไป และหากได้รับความเห็นชอบ ก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย