ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (11 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.15% แตะที่ 99.443
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8001 ฟรังก์ จากระดับ 0.8048 ฟรังก์ในวันจันทร์ (10 พ.ย.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4009 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4017 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 154.09 เยน จากระดับ 154.07 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1590 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1561 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3172 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3180 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดการจ้างงานเฉลี่ย 11,250 ตำแหน่งในช่วง 4 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ต.ค. โดยเนลา ริชาร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานประสบปัญหาในการสร้างงานในช่วงครึ่งหลังของเดือน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ จะรายงานว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 60,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวยังไม่ถูกเผยแพร่ เนื่องจากหน่วยงานรัฐบาลยังคงถูกชัตดาวน์
วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และขณะนี้ได้ส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยหากสภาผู้แทนราษฎรให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ทอม เอมเมอร์ ประธานวิปจากพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรเปิดเผยว่า สภาผู้แทนฯ จะเปิดสมัยประชุมในวันนี้ (12 พ.ย.) และคาดว่าจะมีการลงมติอย่างเร็วที่สุดในเวลา 16.00 น. หรือตรงกับเวลา 04.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 13 พ.ย.ตามเวลาไทย