ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 พ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.48% แตะที่ 99.664
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 155.83 เยน จากระดับ 156.74 เยนในวันจันทร์ (24 พ.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8064 ฟรังก์ จากระดับ 0.8077 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4092 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4108 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1584 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1528 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3213 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3109 ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%
ทางด้าน Conference Board เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลง 6.8 จุด สู่ระดับ 88.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 93.2 โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับรายได้ในภาคครัวเรือนและตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนแอลงและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ชะลอตัวลงด้วย ซึ่งทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 85% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ เทียบกับระดับ 50% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนัก 65% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า
สตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดได้แสดงความเห็นล่าสุดว่า ภาวะตลาดแรงงานที่ย่ำแย่ลงอาจทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งสอดคล้องกับที่คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดอีกคนหนึ่งที่ได้แสดงความเห็นไว้ก่อนหน้านี้