ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (8 ธ.ค.) โดยปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบาการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 99.087
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 155.91 เยน จากระดับ 155.29 เยนในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8067 ฟรังก์ จากระดับ 0.8044 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.385 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3837 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1640 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1643 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3327 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3334 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.167%
คณะกรรมการเฟดมีกำหนดแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 10 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ โดยนักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและรอดูแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมที่กรรมการเฟดมีความที่ขัดแย้งกันมากที่สุดในรอบหลายปี
นอกเหนือจากผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้แล้ว นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ด้านเฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 3/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.6% ในไตรมาส 1 และขยายตัว 3.8% ในไตรมาส 2
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในวันที่ 11 ธ.ค.