เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ในวงกว้าง ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลง รวมถึงการส่งออกของจีนที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางจีนเริ่มส่งสัญญาณแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินหยวน ผ่านการกำหนดอัตรากลางเงินตราอย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่ต้นปีนี้ เงินหยวนแข็งค่าขึ้นแล้วมากกว่า 3.8% และมีแนวโน้มจะทำสถิติปรับขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่สถาบันการลงทุนระดับโลกประเมินว่า แนวโน้มการแข็งค่าของเงินหยวนอาจต่อเนื่องไปถึงปีหน้า และมีโอกาสทดสอบระดับสำคัญเชิงจิตวิทยาที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ห่างจากระดับปัจจุบันไม่ถึง 0.5% แม้ว่าส่วนใหญ่จะคาดว่าเป็นการแข็งค่าในกรอบจำกัด
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านจีนจากแพนธีออน แมโครอีโคโนมิกส์ระบุว่า จีนมีแนวโน้มจะยอมให้เงินหยวนแข็งค่าอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่ปล่อยให้เกิดความผันผวนรุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในทิศทางเดียวและความไร้เสถียรภาพ พร้อมประเมินว่า เงินหยวนอาจอยู่ที่ระดับ 6.95 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2569 โดยมองว่าความไร้เสถียรภาพในช่วงที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง
ก่อนตลาดเปิด ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตรากลางเงินหยวนที่ 7.0523 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2567
ในตลาดสปอต เงินหยวนในประเทศแข็งค่าขึ้นถึงระดับ 7.0281 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2567 ก่อนจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 7.0285 หยวน ณ เวลา 11.02 น.ตามเวลาไทย ขณะที่เงินหยวนในตลาดนอกประเทศแข็งค่าขึ้นตาม โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 7.0203 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนในตลาดระบุว่า เงินหยวนยังได้แรงหนุนจากความต้องการตามฤดูกาลที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ส่งออกจีนมักจะแลกเงินตราต่างประเทศกลับมาเป็นเงินหยวนมากขึ้นในช่วงปลายปี เพื่อนำไปใช้จ่ายด้านต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายทางธุรการและค่าจ้างพนักงาน
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของรัฐรายใหญ่ของจีนได้เข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐและขายเงินหยวนในตลาดสปอตภายในประเทศ เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน