ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 109 เยนในวันนี้ ขณะที่การปรับตัวของตลาดหุ้นเอเชียที่ซบเซา ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ขณะจับตาข้อมูลตัวเลขจากสหรัฐเพื่อบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.18% สู่ระดับ 94.332 ในวันนี้ หลังพุ่งแตะระดับ 94.442 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. โดยได้แรงหนุนจากการคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.17% สู่ระดับ 108.82 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.40% สู่ระดับ 123.51 เยน และอ่อนค่าลง 0.22% สู่ระดับ 1.1350 ดอลลาร์
นักลงทุนยังไม่ต้องการซื้อขายล็อตใหญ่ในตลาด ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขค้าปลีก ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับตัวของดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า
นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า ตลาดการเงินกำลังประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับช่วงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และมองในแง่ลบมากเกินไปเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
นายโรเซนเกรนกล่าวเสริมว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นายโรเซนเกรนระบุว่า เขามีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเกินไป และเป็นเวลานานเกินไป