ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าต่อเนื่อง จากแผนลดภาษีครั้งใหญ่ของ"ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday February 11, 2017 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) โดยดอลลาร์ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า เขาเตรียมจะประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.50 เยน จากระดับ 113.20 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0040 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0011 ฟรังก์สวิส ขณะที่ลดลงแตะ 1.3093 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3136 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0628 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0661 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2477 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2501 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7672 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7629 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เกือบทุกสกุลเงินในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกรณีที่ปธน.ทรัมป์ได้สัญญาว่าจะเผยแผนลดภาษีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ทรัมป์เปิดเผยในระหว่างการประชุมกับผู้บริหารของสายการบินที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีว่า "การปรับลดภาระภาษีโดยรวมสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐถือเป็นเรื่องใหญ่ และเราจะทำการประกาศภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า"

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 3.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากขยับขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

ดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดราคานำเข้า

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนธ.ค.

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 95.7 ในเดือนก.พ. หลังพุ่งแตะ 98.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวที่ระดับ 98.5 โดยดัชนีความเชื่อมั่นถูกกดดันจากดัชนีคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ