ดอลลาร์ดีดตัวแตะ 114 เยนวันนี้ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 7, 2017 20:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 114 เยนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้

ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.11% สู่ระดับ 114.00 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.11% สู่ระดับ 120.58 เยน และอ่อนค่า 0.04% สู่ระดับ 1.0574 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.15% สู่ระดับ 101.79

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 84.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

ก่อนหน้านี้ ตลาดประเมินว่ามีความเป็นไปได้ไม่ถึง 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่

ปอนด์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.22 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. โดยถูกกดดันจากยอดค้าปลีกที่ลดลง และความกังวลเกี่ยวกับการที่สภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษ จะลงมติในวันนี้ต่อร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ณ เวลา 17.32 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่าลง 0.35% สู่ระดับ 1.2192 ดอลลาร์

ทั้งนี้ คาดว่าสภาขุนนางจะพยายามผลักดันการผ่านร่างกฎหมาย Brexit ที่มีการแปรญัตติ โดยมีเนื้อหาที่จะบังคับรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สมาชิกรัฐสภามีสิทธิมีเสียงมากขึ้นเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขของการที่อังกฤษทำการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

ความล่าช้าในการผ่านร่างกฎหมาย Brexit จะส่งผลกระทบต่อแผนของรัฐบาลที่จะประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

ทางด้านสมาคมผู้ค้าปลีกอังกฤษ (BRC) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวลง สะท้อนให้เห็นว่าชาวอังกฤษเริ่มหันมาควบคุมการใช้จ่าย ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวมากขึ้น

สมาคมระบุว่า ยอดขายแบบ like-for-like หรือ การกำหนดเป้าการขายแบบขั้นต่ำของแต่ละร้าน ลดลง 0.4% ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. ถึง 25 ก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะที่ยอดค้าปลีกโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัวแข็งแกร่ง 1.1% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนที่ 0.8% และค่าเฉลี่ยในรอบ 12 เดือนที่ 0.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ