ดอลลาร์ร่วงลงในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้
ณ เวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.20% สู่ระดับ 113.12 เยน หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 112.91 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.16% สู่ระดับ 121.45 เยน และขยับขึ้น 0.03% สู่ระดับ 1.0735 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.13% สู่ระดับ 100.41
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี
เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ปอนด์พุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์ และยูโรในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามคาดในวันนี้
ณ เวลา 22.22 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.50% สู่ระดับ 1.2353 ดอลลาร์ และแข็งค่า 0.49% สู่ระดับ 0.8687 ยูโร
ทั้งนี้ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในวันนี้
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 9-0 เสียง เห็นพ้องให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์