ค่าเงินสกุลปอนด์ทะยานขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษ ได้ประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดเมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของรายงานตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดการณ์
ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2841 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2575 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0729 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0650 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7558 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7594 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.550 เยน จากระดับ 108.69 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9962 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0036 ฟรังก์สวิส
ภาวะการซื้อขายเมื่อวานนี้ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1.2752 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2559 ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษ ประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิ.ย. โดยให้เหตุผลเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติ ซึ่งสวนทางกับท่าทีก่อนหน้านี้ที่นางเมย์เคยยืนกรานว่ารัฐบาลจะไม่ประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนปี 2563
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีของการก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวในแถบมิดเวสต์
ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 6.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต จากระดับ 1.30 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.25 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.