ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ หลัง ECB ประกาศคงดอกเบี้ยตามคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 28, 2017 07:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0880 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0890 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2908 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2841 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวที่ระดับ 0.7470 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.23 เยน จากระดับ 111.45 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9939 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9949 ฟรังก์สวิส

ยูโรอ่อนค่าลงหลังที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สู่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ธ.ค. จากระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นไปตามที่ ECB ประกาศไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ขยับขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2%

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 14,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 257,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 245,000 ราย

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 0.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านในระดับต่ำ

นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐซึ่งเตรียมจะลงมติในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงภาวะการขาดแคลนงบประมาณในการบริหารประเทศ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาในวันนี้ และหากได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภา ก็จะต้องส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามรับรองเป็นกฎหมายในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวภายในเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก็จะส่งผลให้มีการปลดข้าราชการจำนวนหลายล้านคนเป็นการชั่วคราว และปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการว่าจ้างพนักงาน

นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2560 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 1/2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ