ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้แสดงปฏิกริยาอย่างระมัดระวังต่อการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2
เมื่อเวลา 19.15 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.193 ยูโร
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ไม่ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรงในการตอบโต้เกาหลีเหนือที่ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่น "ฮวาซอง-12" พุ่งข้ามเกาะญี่ปุ่นก่อนไปตกในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยทรัมป์กล่าวเพียงว่า สหรัฐ "พร้อมใช้มาตรการทุกทาง" เพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือ
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 จะขยายตัว 2.7% ซึ่งสูงกว่าการประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระบุว่า GDP มีการขยายตัว 2.6%
นอกจากนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนทั่วสหรัฐประจำเดือนส.ค. ในวันนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวมีการเปิดเผยก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของจะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%