ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลัก หลังสหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 20, 2018 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.54 เยน จากระดับ 112.84 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9936 ฟรังก์ จากระดับ 0.9997 ฟรังก์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3179 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3164 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1454 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1412 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.2855 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2830 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7289 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7330 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 8 จุด สู่ระดับ 60 ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลง 9 จุดในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์ รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และราคาบ้าน

สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆที่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กนั้น นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะยังคงดำเนินวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนหน้า เพื่อให้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

"สิ่งที่เราจะทำในการประชุมเดือนหน้าก็คือ การทำในสิ่งที่เราได้เคยทำให้ดีที่สุด โดยเราจะดำเนินแนวทางกลับไปสู่การใช้นโยบายการเงินแบบปกติในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำมาก แม้ว่าเราได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก และเราต้องการรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไปเป็นเวลานานเท่าที่จะทำได้" เขากล่าว

ทั้งนี้ เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 ธ.ค. โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.,มิ.ย. และก.ย.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ