ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก ขานรับตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 27, 2018 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากมาสเตอร์การ์ด สเปนดิงพัลส์ ระบุว่า บริษัทค้าปลีกของสหรัฐทำยอดขายพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปีในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.35 เยน จากระดับ 110.12 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9950 ฟรังก์ จากระดับ 0.9862 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3582 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3659 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1352 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1387 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2647 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2674 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7056 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7035 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 1,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ หลังจากมาสเตอร์การ์ด สเปนดิง พัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยข้อมูลค้าปลีกในเครือมาสเตอร์การ์ด รายงานว่า ยอดขายของบริษัทค้าปลีกสหรัฐในระหว่างวันที่ 1 พ.ย.-24 ธ.ค.ปีนี้ พุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 8.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำสถิติแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 ปี

รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และยังช่วยหนุหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้นด้วย ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทอเมซอน, เมซีส์ อิงค์, ทาร์เก็ต, นอร์ดสตรอม และดอลลาร์ ทรี ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐที่จำหน่ายสินค้าทุกชนิดในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่า

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนก.ย. และนับเป็นการชะลอตัวเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติกตอนกลางหดตัวลงในเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยดัชนีภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -8 ในเดือนธ.ค. จากระดับ +14 ในเดือนพ.ย. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ +15

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ