ดอลลาร์ร่วงต่ำสุดรอบกว่า 1 ปีครึ่งเทียบเยน ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 12, 2019 23:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งเทียบเยน ขณะที่เยนยังทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดเทียบยูโรในรอบกว่า 2 ปี โดยนักลงทุนหันเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 22.31 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.35% สู่ระดับ 105.29 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.15% สู่ระดับ 118.16 เยน และดีดตัวขึ้น 0.21% สู่ระดับ 1.1221 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.11% สู่ระดับ 97.39

เยนถือเป็นสกุลเงินหลักที่ปรับตัวดีที่สุด โดยได้พุ่งขึ้น 3% ในเดือนนี้ ขณะที่ได้อานิสงส์จากการที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่จีนปล่อยให้หยวนอ่อนค่าต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้รุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า จีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราค่ากลางของหยวนที่ระดับ 7.0211 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ โดยอ่อนค่าลงจากวันศุกร์ และเป็นระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์เป็นวันทำการที่ 3

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับจีน แต่สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงกับจีน

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 2.0% โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มากกว่าคาด

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ออกรายงานเตือนว่า จากข้อมูลล่าสุด ทางธนาคารเชื่อว่ามีโอกาสมากกว่า 30% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐปีหน้า

"แบบจำลองอย่างเป็นทางการของเราคาดการณ์ว่า มีแนวโน้ม 20% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่การวิเคราะห์ของเรา โดยอิงจากข้อมูลล่าสุด ทำให้เราเชื่อว่า มีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย" นายอีธาน แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าว

ทั้งนี้ ความไม่แนนอนที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ได้ฉุดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลง และกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง แต่การลงทุนในภาคธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ