ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีในวันนี้ โดยนักลงทุนหันเข้าถือครองดอลลาร์ ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ธนาคารกลางต่างๆพากันผ่อนคลายนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากปัจจัยการเมืองในอังกฤษ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ณ เวลา 22.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.11% สู่ระดับ 99.03 หลังจากดีดตัวแตะ 99.37 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2560 ซึ่งขณะนั้นดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 99.696
ขณะนี้ ดัชนีดอลลาร์กำลังดีดตัวใกล้แตะระดับ 100 ที่เคยทำไว้นับตั้งแต่เดือนเม.ย.2560
นักวิเคราะห์ระบุว่า ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นในกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือนเทียบดอลลาร์ในวันนี้ โดยหลุดระดับ 1.10 ดอลลาร์ จากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
นักวิเคราะห์ระบุว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และประกาศรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 12 ก.ย. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีแนวโน้ม 80% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.20% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความ กล่าวหาเฟดว่า เมินเฉยต่อการร่วงลงของยูโร ซึ่งทำให้ประเทศในยุโรปได้เปรียบทางการค้าต่อสหรัฐ
"ยูโรกำลังดิ่งลงอย่างบ้าคลั่งเทียบดอลลาร์ ทำให้พวกเขาส่งออกได้อย่างมาก และมีความได้เปรียบในการผลิต ขณะที่เฟดไม่ได้ทำอะไรเลย"
"เราไม่มีปัญหาเรื่องภาษี แต่เรามีปัญหาเรื่องเฟด ซึ่งพวกเขาช่างไม่รู้เรื่องอะไรเสียเลย" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ในการประชุมนโยบายการเงินรอบที่แล้วในวันที่ 25 ก.ค. ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
"กรรมการบริหารของ ECB ได้มอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมระบบการเงินยุโรปทำการศึกษาทางเลือกต่างๆ ซึ่งรวมถึงแนวทางการชี้นำนโยบายการเงิน, การใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการกำหนดขนาดและองค์ประกอบของการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่" แถลงการณ์ของ ECB ระบุ
แถลงการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือทำการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนก.ย.
ทางด้านนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวในการแถลงข่าวว่า การใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ยังคงมีความสำคัญ เพื่อรับประกันว่าสภาวะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และเอื้อต่อการขยายตัวของยูโรโซน
นายดรากียังระบุว่า กรรมการ ECB ทุกคนเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
นักลงทุนจับตาการเมืองอังกฤษ โดยสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ รวมทั้งสมาชิกบางรายที่แปรพักตร์จากพรรคร่วมรัฐบาล ได้เข้าชื่อเพื่อยื่นขออภิปรายฉุกเฉินในรัฐสภาวันนี้ ในความพยายามที่จะสกัดนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี มิให้นำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 31 ต.ค. โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ขณะนี้ นายจอห์น เบอร์คาว ประธานสภาสามัญชน กำลังพิจารณาคำขออภิปรายดังกล่าว ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ สมาชิกพรรคฝ่ายค้านก็จะสามารถลงมติเพื่อเข้าควบคุมการประชุมรัฐสภาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยการลงมติดังกล่าวจะเปรียบเสมือนการลงมติไม่ไว้วางใจนายจอห์นสัน และแผนการเกี่ยวกับ Brexit ของเขา และจะทำให้พรรคฝ่ายค้านสามารถขยายเส้นตาย Brexit ออกไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2563
ทางด้านนายจอห์นสันขู่ก่อนหน้านี้ว่า เขาจะประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 ต.ค. หากข้อตกลง Brexit แพ้โหวตในรัฐสภาวันนี้