ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินปอนด์แข็งค่า รับความหวังอังกฤษไม่เผชิญ "no-deal Brexit"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 6, 2019 07:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินปอนด์ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อังกฤษจะไม่เผชิญกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปบบไม่มีการทำข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส ขานรับข่าวจีนและสหรัฐได้ตกลงที่จะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่ในเดือนหน้า รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2323 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2212 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1036 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1032 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6816 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6798 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.95 เยน จากระดับ 106.40 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9868 ฟรังก์ จากระดับ 0.9802 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3234 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3219 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์ยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากสมาชิกสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาขุนนางของอังกฤษ ประกาศว่าจะไม่ขัดขวางร่างกฎหมายป้องกันภาวะ no-deal Brexit หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาสามัญชนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

หากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาขุนนาง ก็จะทำให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อให้มีการขยายกำหนดเส้นตายในการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU เป็นวันที่ 31 ม.ค.2563 จากเดิมวันที่ 31 ต.ค. หากนายจอห์นสันไม่สามารถยื่นข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และได้รับการอนุมัติภายในกลางเดือนต.ค.

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีนซึ่งระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนต.ค.

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 56.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 53.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จะอยู่ที่ระดับ 54.0 ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0% นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ