ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังมีความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่ซบเซา
ณ เวลา 23.23 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.52% สู่ระดับ 107.18 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.33% สู่ระดับ 117.37 เยน และขยับขึ้น 0.18% สู่ระดับ 1.0950 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.05% สู่ระดับ 99.08
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.1 ในเดือนส.ค.
ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2
รายงานระบุว่า ภาคธุรกิจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือนก.ค. ขณะที่การบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต็อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน เนื่องจากภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลกระทบจากการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.7% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้