ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังเฟดเผยรายงานประชุม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 10, 2019 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0974 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0954 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2211 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2217 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6730 ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.54 เยน จากระดับ 107.12 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9959 ฟรังก์ จากระดับ 0.9938 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3330 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3318 ดอลลาร์แคนาดา

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา และยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการหารือกันในเร็วๆนี้ว่า เฟดควรจะเพิ่มขนาดของงบดุลหรือไม่

กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐ โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงขาลงมากขึ้นนับตั้งแต่ที่เฟดจัดการประชุมในเดือนก.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก

คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากรายงานการประชุมเดือนระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะขาลง หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นถดถอย อันเนื่องมาจากผลกระทบของข้อพิพาทการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

นักลงทุนจับตาการเจรจาในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ท่ามกลางความหวังที่ว่า การเจรจาจะมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐนำโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ