ดอลลาร์ดีดตัวเทียบเยน นักลงทุนจับตาคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 10, 2019 23:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยน ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ณ เวลา 23.10 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.36% สู่ระดับ 107.85 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.81% สู่ระดับ 118.82 เยน และดีดตัวขึ้น 0.44% สู่ระดับ 1.1017 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.44% สู่ระดับ 98.68

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า เขาจะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทำให้มีความหวังว่าสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า

"ถือเป็นวันยิ่งใหญ่ในการเจรจาการค้ากับจีน พวกเขาต้องการทำข้อตกลง แต่ผมล่ะ ผมจะพบปะกับท่านรองนายกรัฐมนตรีของจีนในวันพรุ่งนี้ที่ทำเนียบขาว" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว ท่ามกลางข่าวที่สับสนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

"เราไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางของท่านรองนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด" โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอีกรายหนึ่งกล่าวว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ยังคงมีกำหนดเดินทางกลับประเทศในช่วงค่ำของวันศุกร์ และสหรัฐยังคงจัดเตรียมอาหารค่ำให้แก่คณะเจรจาการค้าของจีนในช่วงเย็นวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า การเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 7-8 ต.ค. ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด

เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ยังรายงานว่า การเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเดิมมีกำหนดในวันที่ 10-11 ต.ค. จะเหลือเพียงวันเดียว คือวันที่ 10 ต.ค. โดยคณะเจรจาการค้าของจีนจะเดินทางกลับประเทศในวันพฤหัสบดี แทนที่จะเป็นวันศุกร์ ขณะที่การเจรจาได้หยุดชะงักลง เนื่องจากจีนได้ปฏิเสธที่จะเจรจาเกี่ยวกับประเด็นการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐกำลังพิจารณาระงับการปรับขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ต.ค.เพื่อแลกกับการทำข้อตกลงด้านปริวรรตเงินตรากับจีน

ทั้งนี้ สหรัฐมีกำหนดเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 30% ในวันที่ 15 ต.ค. จากเดิมที่ระดับ 25% และมีกำหนดเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่ 15 ธ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปลายเดือนนี้

ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. แม้อัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขดัชนี PPI ที่ชะลอตัวในเดือนก.ย. ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 77.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ