ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวในเดือนม.ค. หลังหดตัว 5 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 3, 2020 22:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวในเดือนม.ค. หลังจากหดตัวติดต่อกัน 5 เดือน

ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.30% สู่ระดับ 108.70 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.12% สู่ระดับ 120.08 เยน และร่วงลง 0.42% สู่ระดับ 1.1046 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.49% สู่ระดับ 97.87

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 47.8 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.5

ดัชนีอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ หลังจากหดตัวติดต่อกัน 5 เดือน

ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน

ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนส.ค.ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 35 เดือน

ส่วนปอนด์ดิ่งลงอย่างหนักเทียบดอลลาร์และยูโร ขณะที่นักลงทุนไม่มั่นใจต่อการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน หลังจากที่อังกฤษได้แยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 31 ม.ค.

ทั้งนี้ อังกฤษได้แยกตัวอย่างเป็นทางการจาก EU ในวันที่ 31 ม.ค. และได้เริ่มต้นช่วงการเปลี่ยนผ่าน 11 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำการเจรจาในด้านต่างๆ นับตั้งแต่การค้าไปจนถึงความมั่นคง

ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านดังกล่าว อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายของ EU เหมือนกับประเทศสมาชิกอื่นๆของ EU แต่อังกฤษจะไม่มีสิทธิส่งตัวแทนเข้าไปนั่งในองค์กรต่างๆของ EU

ปัจจุบัน ช่วงการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวสามารถขยายออกไปเป็นเวลา 2 ปี หากได้รับความเห็นชอบจากทั้งอังกฤษและ EU

อย่างไรก็ดี นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่าอังกฤษจะไม่ขยายระยะเวลาเปลี่ยนผ่านหลังจากสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ นายจอห์นสันยืนกรานว่า ในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับ EU นั้น อังกฤษไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำตามข้อกำหนดของ EU เกี่ยวกับนโยบายการแข่งขันในตลาด หรือการอุดหนุนราคาสินค้า ขณะที่ EU ขู่ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี และกำหนดโควตาต่อสินค้านำเข้าจากอังกฤษ หากอังกฤษไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของ EU

ทั้งนี้ หากอังกฤษและ EU ประสบความล้มเหลวในการทำข้อตกลงก่อนสิ้นปีนี้ อังกฤษก็จะเข้าสู่ภาวะการแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง หรือ no-deal Brexit และจะทำให้การค้าระหว่างอังกฤษและ EU อยู่ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ