ดอลลาร์ร่วงเกือบ 1% คาดเฟดจัดหนักหั่นดอกเบี้ยอีกรอบใกล้ 0% เดือนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 7, 2020 00:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ดิ่งลงเกือบ 1% เทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.75% ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการทรุดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ณ เวลา 23.53 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.86% สู่ระดับ 105.24 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.20% สู่ระดับ 119.06 เยน และดีดตัวขึ้น 0.67% สู่ระดับ 1.1310 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.87% สู่ระดับ 95.98

ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติทรุดตัวลงหนักที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนพ.ค.2559

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. แม้ว่าเฟดเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% เมื่อวันอังคาร

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 72.6% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในวันที่ 18 มี.ค. จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% และมีแนวโน้ม 27.4% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 0.50-0.75%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 0.695% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ดิ่งลงสู่ระดับ 1.28% และเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 0.45% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558

นักวิเคราะห์ระบุว่าการทรุดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งสะท้อนความวิตกในตลาดที่ว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่ง อาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันผลกระทบจากไวรัสดังกล่าว

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 100,000 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มมากขึ้นนอกประเทศจีน

ทั้งนี้ ณ เวลา 08.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.00 น.ตามเวลาไทย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 100,055 ราย โดยจีนมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ตามมาด้วยเกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี

นอกจากนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 3,398 ราย

ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศปรับเพิ่มอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่ระดับ 2%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินวงเงิน 8.3 พันล้านดอลลาร์ในวันนี้ เพื่อใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แกนนำในสภาคองเกรสเป็นผู้ร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพุธ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้การอนุม้ติเมื่อวานนี้ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายในวันนี้

ความรวดเร็วในการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยงบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วยที่ต้องสงสัย รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนต้านเชื้อไวรัส และลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาทางการแพทย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ