ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยนักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น หลังมีการรายงานความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขณะที่ประเทศต่างๆพากันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ณ เวลา 23.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.10% สู่ระดับ 107.58 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.61% สู่ระดับ 118.09 เยน และดีดตัวขึ้น 0.67% สู่ระดับ 1.0970 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.79% สู่ระดับ 99.08
โนวาแวกซ์ (Novavax) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ ได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกสำหรับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
โนวาแวกซ์ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกในการใช้วัคซีน NVX-CoV2373 เพื่อต้านไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัย และความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน (immunogenicity) จากการทดลองดังกล่าวในเดือนก.ค.นี้
โนวาแวกซ์ระบุว่า เมื่อการทดลองเฟสแรกเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ทางบริษัทก็จะทำการทดลองเฟสที่ 2 ในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ โดยการทดลองในเฟสที่ 2 จะมีการประเมินเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ความปลอดภัย และการลดการติดเชื้อโควิด-19 ในบุคคลหลากหลายช่วงอายุ
ทางด้าน Merck ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทจะร่วมมือกับ IAVI ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
Merck ระบุว่า การผลิตวัคซีนดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยี rVSV ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการผลิตวัคซีนด้านไวรัส Ebola Zaire
แถลงการณ์ระบุว่า ขณะนี้ การผลิตวัคซีนดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นการพัฒนาก่อนการทดสอบทางคลินิก และคาดว่าการทดสอบทางคลินิกจะเริ่มขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้
Merck ระบุว่า ทางบริษัทจะร่วมมือกับ IAVI ในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่จะทำให้ทุกประเทศในโลกสามารถเข้าถึงและซื้อหาได้
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 86.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 85.7 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 82.3
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐต่างๆในสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน